วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555

 
 

สะ-วี-ดัด และ สะ-วัด-ดี ชาวบล็อกที่น่ารักทุกคน
จากบทความก่อนหน้านี้ปลายได้ให้เกร็ดความรู้เกี่ยวกับความหมายของสื่อสิ่งพิมพ์กันไปแล้ว และในครั้งนี้เราก็ยังคง “วนเวียน-เวียนวน” กันต่อในเรื่องของสื่อสิ่งพิมพ์กันเช่นเคย ก็เพราะว่าสื่อสิ่งพิมพ์นี้มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างเรา ๆ มากมาย ว่าแต่ไอ้เจ้าสื่อสิ่งพิมพ์นั้นมี “ความสำคัญ”  ยังไงกันน้า??? ทุกคนคงอยากรู้กันแล้วใช่มั้ย งั้นเราไปดูกันเลยค่ะ
 
 
 
 
 
 
 


สื่อสิ่งพิมพ์นั้นมีประวัติความเป็นมาควบคู่ไปกับมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน  เป็นสื่อมวลชนประเภทหนึ่งที่มีอิทธิพลมาตลอดนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั่นเอง และเป็นสิ่งที่เก็บรักษาสืบทอดจากชนรุ่นหนึ่งไปสู่ชนรุ่นหลัง สื่อสิ่งพิมพ์นี้มิได้เป็นเพียงวัสดุธรรมดาทั่ว ๆไป แต่เป็นวัสดุที่สุดแสนวิเศษ โดยช่วยให้ประโยชน์อย่างมากมายสำหรับผู้อ่าน และมีอิทธิพลต่อสังคมในหลากหลายด้าน   ดังต่อไปนี้
 
 
 
 



 
จากอิทธิพลข้างต้นที่นับวันจะมีมากขึ้นตามกาลเวลา จนในยุคปัจจุบันชนรุ่นหลังได้สานต่อความคิดเรื่องการพิมพ์จนกระทั่งกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย  และซับซ้อน สามารถผลิตสิ่งพิมพ์ได้หลากหลายชนิดตอบสนองวัตถุประสงค์ของมนุษยชาติได้อย่างกว้างขวาง นอกเหนือจากสื่อสิ่งพิมพ์จะเป็นสื่อมวลชนที่มีความเก่าแก่กว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรืออินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นสื่อประเภทหนึ่งที่มีการใช้แพร่หลายไปทั่วโลกเช่นในปัจจุบันก็ตาม แต่สื่อสิ่งพิมพ์ก็ยังเป็นสื่อที่มีการใช้อย่างแพร่หลายเป็นที่นิยมของทุกชนชาติมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทใดก็ตาม  เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร แผ่นใบปลิว หรือสิ่งพิมพ์ประเภทต่าง ๆ
 



ด้วยความที่สื่อสิ่งพิมพ์มีอิทธิพลต่อสังคมเราเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมเกิดพฤติกรรมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต ปลายเลยอยากจะเสนอสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนึ่งที่ปลายกำลังสนใจอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือสื่อสิ่งพิมพ์ประเภทนิตยสารค่ะ
 
 
นิตยสารที่ปลายนำมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านในวันนี้
จะเป็นนิตยสารเล่มไหนกันนะ???
จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
ติ๊กต๊อก
ติ๊กต๊อก
ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก
แท่น แท่น แท้นนน
นั่นก็คือ.......
  
 
 

 
  
 
เนื้อหานิตยสารจะประกอบไปด้วย.......... 

 
 
 
 
 
 
 
 




 
 
 
 



              เนื้อหาในหนังสือนิตยสารเล่มนี้จะเน้นหนักไปในเรื่องของแฟชั่น การแต่งหน้า การทำผม การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ และมีเนื้อหาสาระของเรื่องสุขภาพ อาหาร ภาพยนตร์ และดนตรีแทรกเพียงเล็กน้อย เพื่อความหลากหลายของเนื้อหาในนิตยสาร





           สาเหตุที่ปลายเลือกนิตยสารเล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะก็เพราะว่า Ray Magazine เล่มนี้ กำลังได้รับความนิยม และมีอิทธิพลต่อกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้       แท้จริงแล้วเหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้อ่านอายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะว่าจะเน้นไปในเรื่องของการแต่งหน้า การทำผม และแฟชั่นที่เป็นที่นิยม ซึ่งกลุ่มคนอายุ 18 ปีขึ้นไปนั้น ย่อมมีความคิด มีวิจารณญาณในการตัดสินใจที่จะเสพหนังสือเล่มนี้ได้อย่างพอเหมาะพอควร และสามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพของตนเอง                                   
               แต่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในปัจจุบันนี้ก็คือ จำนวนของผู้อ่านหนังสือประเภทนี้จะ       อายุต่ำกว่า 18 ปีมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเสี่ยงต่อการถูกทำลายความเป็นเด็ก โดยการเสพหนังสือนิตยสารความสวยความงามมากจนเกินควร และเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้นอย่างขาดวิจารณญาณ ย่อมเกิดผลเสีย กล่าวคือในสังคมปัจจุบันเรามักจะพบเห็นเด็กนักเรียนบางคนนั้นประพฤติผิดกฎของโรงเรียนบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น การแต่งหน้าไปเรียน การทำสีผม การทำทรงผมแปลกๆ การใส่กระโปรง และ     ถุงเท้าสั้น ฯลฯ  จากพฤติกรรมของเด็กเหล่านี้ถือว่าเป็นการการทำที่กระชากความเป็นเด็กออกจากตนเอง โดยการรับเอาสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับวัยของตนเข้ามามากจนเกินควร จนกลายเป็นสิ่งครอบงำให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นได้         
              ดังนั้น การที่เราจะอ่านนิตยสารความสวยความงาม และกระทำตามในนิตยสารนั้นมิใช่เรื่องผิดนะคะ แต่เราควรอ่านอย่างมีวิจารณญาณ รู้จักคิดก่อนเลือกกระทำในสิ่งที่เหมาะสมกับกาลเทศะ และวัฒนธรรมของสังคม อีกทั้งต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของวัยอีกด้วย เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเสพนิตยสารเหล่านี้ได้อย่างไร้พิษภัย และมีความสุขในการดำเนินชีวิตค่ะ
 
 
 
 
หมดเวลาแล้วสิ
หมดเวลาแล้วสิ
วันนี้ปลายต้องขอเล่าเรื่องสาระดีดีเพียงเท่านี้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า จะเป็นเรื่องอะไรกันนะ??
ต้องคอยติดตามชมกันนะคะ...
บ้ายบายยย >_<

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น